Search
Profile
Shopping Cart0
Favorite
เข้าสู่ระบบ
28 มีนาคม 2024
0

อยากมีผิวหน้าสวยใสไร้สิว … ต้องเลือก “คลีนซิ่ง” ให้ถูกประเภท

favorite


อยากมีผิวหน้าสวยใสไร้สิว … ต้องเลือก “คลีนซิ่ง” ให้ถูกประเภท

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ใครๆ ก็อยากมีผิวหน้าที่สวยเนียนใสห่างไกลสิว! เพราะสิวคือตัวการหลักในการสร้างความไม่มั่นใจให้กับเรา แถมยังพรากความสวยไปจากผิวหน้างามๆ ของเราอีกด้วย! 

 

ดังนั้นหนุ่มสาวหลายๆ คนเลยพยายามเสาะหาหนทางสว่างในการกำจัดสิวให้ราบคาบ ไม่ว่าจะเป็นการทุ่มเงินหมื่นเงินแสนไปรักษาผิวหน้าที่คลินิก ทั้งการประโคมยาสิว, ทำทรีทเมนท์ และการทำเลเซอร์ เท่านั้นไม่พอค่ะ ยังไม่จบง่ายๆ สกินแคร์อะไรที่เค้าว่าดี ว่ารักษาหาย เราก็ทุ่มไปไม่มียั้ง … แต่ทำไมนะ!? พอสิวขึ้น ทายารักษามันก็หาย แต่ผ่านไปไม่กี่วันสิวก็ขึ้นอีกแล้ว! วนลูปอยู่อย่างนี้ไม่รู้จบ จนเหนื่อยที่จะเอาชนะเจ้าสิวตัวร้ายนี่แล้วจริงๆ TT

 

หากใครที่กำลังเจอปัญหาแบบนี้อยู่ล่ะก็ แก้มจะบอกให้ว่าอย่าพึ่งท้อใจไปค่ะ! เพราะไม่ได้มีแค่คุณคนเดียวที่เจอเรื่องราววนลูปแบบนี้ แต่เพื่อนๆ หลายคนเค้าก็เป็นกัน! วันนี้แก้มเลยจะพาทุกคนไปไขคำตอบว่าการรักษาสิวที่ยั่งยืนและรักษาที่รากฐานของปัญหานั้นคืออะไร ทีนี้หาหมอ ทาครีม เลเซอร์ยังไงก็หายสนิท ไม่มีสิวกลับมาขึ้นอีกแน่นอน :)



วิธีการที่ว่านี้ก็คือการ “ทำความสะอาดผิวหน้าให้ถูกวิธี” นั่นเอง … อย่างที่เคยบอกไปในหลายๆ ครั้งว่าแท้จริงแล้ววิธีการดูแลรักษาผิวหน้าให้ดีที่สุดนั้น ต้องเริ่มต้นด้วยการล้างหน้าให้สะอาดและเหมาะสมกับสภาพผิวหน้าและปัญหาผิวของเราที่สุด ถ้าเราเริ่มต้นล้างหน้าให้ดี ไม่ว่าจะดูแลผิวด้วยวิธีไหน ผิวก็จะสวยเนียนใส ไร้สิว ไร้ริ้วรอยอย่างแน่นอน

 

ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว แก้มก็จะขออธิบายให้เพื่อนๆ ได้เข้าใจถึงสเต็ปของการล้างหน้าให้สะอาดที่สุดกันก่อน โดยหลักการง่ายๆ ก็คือ เราต้อง “เช็ดด้วยคลีนซิ่งก่อนล้างด้วยคลีนเซอร์” ทุกครั้ง โดย “คลีนซิ่ง” นั้นจะเป็นการทำความสะอาดโดยการเช็ดในขณะที่ใบหน้าแห้ง ดังเช่น การเช็ดทำความสะอาดคราบเครื่องสำอางหรือคราบครีมให้ออกจากใบหน้า ก่อนล้างหน้าแบบเปียกด้วย “คลีนเซอร์” หรือพวกโฟม/เจล/สบู่ล้างหน้านั่นเอง 

 

แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงการล้างหน้าให้สะอาดนั้น ทุกคนมักจะนึกถึงแต่การล้างด้วย “คลีนเซอร์” ซึ่งนั่นก็คือโฟม/เจล/สบู่ล้างหน้า แต่หลายคนมักจะละเลยถึงการใช้ “คลีนซิ่ง” ไป คนที่แต่งหน้าหรือทาครีมกันแดดอาจจะมีการทำความสะอาดใบหน้าด้วยขั้นตอนนี้กันอยู่เสมอ แต่คนที่ไม่ได้ทาครีมหรือแต่งหน้าอะไรหลายๆ คน มักจะข้ามขั้นตอนการเช็ดหน้าก่อนล้างหน้าด้วยคลีนซิ่งไป และเริ่มล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์เลย ซึ่งนั่นแหละคือปัญหาที่จะทำให้เกิดสิวตามมา!

 

ไม่ว่าคุณจะแต่งหน้าหรือไม่แต่งหน้า ทาครีมกันแดดหรือไม่ทา หรือจะหน้าเปล่าออกจากบ้านโดยไม่ได้ปรุงแต่งอะไรเลยก็ตาม คุณก็จำเป็นที่จะต้องเช็ดหน้าให้สะอาดด้วยคลีนซิ่งก่อนการล้างหน้าแบบเปียกอยู่เสมอ เพราะคลีนซิ่งจะช่วยเช็ดคราบสิ่งสกปรก ทั้งคราบเมคอัพ/สกินแคร์/ฝุ่น/มลภาวะต่างๆ ที่มีอยู่บนใบหน้าให้ออกหมดจดก่อนการล้างหน้า ทำให้การทำความสะอาดผิวหน้าของคุณนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผิวหน้าของคุณก็จะสะอาด ปราศจากสิวอุดตันที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวอักเสบขึ้นได้

 

ดังนั้น วันนี้แก้มเลยจะพาทุกคนไปทำความรู้จัก “คลีนซิ่ง” ให้มากขึ้นกันอีกสักนิด ว่าคลีนซิ่งนั้นมีกี่ประเภท และแต่ละประเภทนั้นเหมาะกับผิวในลักษณะใด เพื่อนๆ จะได้เลือกเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนซิ่งกันได้ถูกแบบ เพื่อผิวหน้าที่เนียนใสไร้สิวแบบไม่มีโป๊ะ!

 

คลีนซิ่งมี 2 ประเภทด้วยกัน คือ

 

1. ไมเซลลาร์ วอเทอร์ (Micellar Water)

 




 

คลีนซิ่งแบบไมเซลลาร์ วอเทอร์นั้นเกิดจากน้ำที่ผสมกับหยดน้ำมันขนาดเล็ก จนกลายเป็นสารที่มีแรงตึงผิวสูง ทำหน้าที่เสมือนแม่เหล็กที่คอบดูดจับสิ่งสกปรกและน้ำมันส่วนเกิดออกจากผิวหน้า แต่ไม่ดูดซับความชุ่มชื่นของผิวออกไปด้วย ไมเซลลาร์ วอเทอร์นั้นมักจะมีขนาดโมเลกุลที่เล็ก ทำให้สามารถดักจับสิ่งสกปรกได้หมดจด ทำความสะอาดได้ล้ำลึกถึงรูขุมขน

 

-สามารถเช็ดทำความสะอาดคราบสิ่งสกปรก เหงื่อ และความมันได้ดี

-สามารถเช็ดทำความสะอาดคราบเครื่องสำอางทั่วๆ ไปได้ แต่ไม่สามารถทำความสะอาดคราบเครื่องสำอางชนิดกันน้ำได้อย่างหมดจด

-เช็ดแล้วไม่ต้องล้างออก สามารถล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์ในภายหลังได้

-สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะคนที่มีผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย

 

2. เมคอัพ รีมูฟเว่อร์ (Make up Remover)

 




 

องค์ประกอบของเมคอัพ รีมูฟเว่อร์นั้นหลักๆ จะผลิตจากน้ำมัน ทั้งเป็นเนื้อน้ำมันล้วนๆ หรือเนื้อน้ำมันกับน้ำแยกชั้นในขวดเดียว (Bi-Phasic) วิธีการทำงานของมัน คือ จะตรงเข้าไปดักจับคราบเครื่องสำอางโดยเฉพาะ สามารถทำความสะอาดผิวหน้าที่เต็มไปด้วยคราบเครื่องสำอางได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะแต่งหน้าเบา-ปานกลาง-หนักเพียงใด เจ้าตัวนี้ก็เอาอยู่หมด!

 

-สามารถเช็ดทำความสะอาดคราบสิ่งสกปรก เหงื่อ และความมันได้

-สามารถเช็ดทำความสะอาดคราบเครื่องสำอางได้ทุกประเภท แม้แต่เครื่องสำอางกันได้

-หลังเช็ดทำความสะอาด ต้องล้างหน้าออกด้วยคลีนเซอร์เสมอ

-คลีนซิ่งประเภทนี้จะไม่เหมาะกับผิวแพ้ง่าย เพราะบางสูตรอาจมีการผสมแอลกอฮอล์ รวมถึงสามารถทำให้ผิวอุดตันขึ้นได้

 

และปิดจบขั้นตอาการทำความสะอาดผิวหน้าให้ใสกิ๊งกันด้วย “คลีนเซอร์ (Cleansing)” ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหน้าแบบเปียก เกิดจากน้ำมันที่ผสมกันกับน้ำจนกลายเป็นเนื้อเดียวกันจนกลายเป็นเนื้อครีมหรือเนื้อเจล ใช้ล้างทำความสะอาดผิวหน้าขณะเปียก หลังจากการเช็ดหน้าด้วยคลีนซิ่ง

 




 

-สามารถล้างทำความสะอาดคราบสิ่งสกปรก ความมัน เหงื่อบนผิวหน้าออกได้

-ไม่สามารถล้างทำความสะอาดผิวหน้าที่สกปรกด้วยคราบเครื่องสำอาง สกินแคร์หนักๆ คราบฝุ่นละออง หรือ สิ่งสกปรกที่อัดแน่นในรูขุมขนได้ 

-ล้างทำความสะอาดควบคู่กับการใช้น้ำ

-เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว

-ไม่ควรล้างเกินวันละ 2 ครั้ง

 

ได้ความรู้กันไปแน่นๆ แบบนี้แล้ว ครั้งต่อไปก็อย่าลืมทำความสะอาดผิวหน้าให้ใสกิ๊งด้วย 2 สเต็ปง่ายๆ “คลีนซิ่ง+คลีนเซอร์” กันด้วยนะคะ นอกจากจะช่วยทำให้ผิวหน้าสะอาดใสถึงขีดสุดแล้ว การล้างหน้าที่ดีนั้นจะช่วยเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงจากสกินแคร์ต่างๆ ให้เห็นผลดีขึ้นอีกด้วย ใครที่ยังไม่มีตัวช่วยในการล้างหน้าดีๆ อย่าลืมมาจัดไอเท็มเด็ดๆ ราคาโดนๆ ไปจากบิวตี้นิสต้ากันได้น้า รับรองว่าคุ้มค่า รับประกันคุณภาพแน่นอน 100% ค่า :)

บทความที่เกี่ยวข้อง